วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ทำไม Google และ Apple ต่างเดินหน้าเข้าธุรกิจโซล่าเซลล์


โซล่าเซลล์



       
          บีบีซีรายงานข่าวคราวในแวดวงไอทีช่วงนี้ทั้งบริษัทแอปเปิ้ล และกูเกิ้ล สองยักษ์ใหญ่ผู้พัฒนาเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา หันไปให้ความสนใจเทคโนโลยีพลังงานจากแสงอาทิตย์อย่างมาก
          คนทั่วไปอาจคิดว่า แอปเปิ้ล เป็นเพียงแค่ยักษ์ใหญ่ทางด้านธุรกิจคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟน เช่นเดียวกันกันกับกูเกิ้ลที่เป็นผู้นำในแวดวงคอมพิวเตอร์และเสิร์ชเอ็นจิ้น

(FILES) This file photo taken on September 17, 2012 shows the Apple logo on the Apple store on 5th Avenue in New York. Wall Street stocks jumped early October 10, 2016 with Apple gaining on news of more trouble with rival smartphone-maker Samsung and petroleum-linked shares advancing on higher oil prices. Apple rose 1.6 percent as Samsung Electronics acknowledged it was adjusting production of the Galaxy Note 7 smartphone due to reports that replacement units for devices with exploding lithium-ion batteries are also catching fire. / AFP PHOTO / DON EMMERT
AFP PHOTO / DON EMMERT

          ความจริงนี้เปลี่ยนไปแล้วเพราะเมื่อปี 2558 แอปเปิ้ล เพิ่งได้รับใบอนุญาตจากรัฐแคลิฟอร์เนียให้ขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของแอปเปิ้ลที่หันมาลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากต้องการให้ไฟฟ้าที่หล่อเลี้ยงธุรกิจของทางค่ายมาจากเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ อะเมซอน เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง ที่เพิ่งประกาศสร้างกังหันผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม กำลังผลิต 253 เมกะวัตต์ ทางภาคตะวันตกของรัฐเท็กซัส
applesolar
          ขณะที่กูเกิ้ล ก็ไม่น้อยหน้า เพราะอยู่ระหว่างความร่วมมือลงทุนกับ อีวานปาห์ โซลาร์ อิเล็กทริก เจเนอเรติง ซิสเต็ม (SEGS) และ ซันพาวเวอร์ เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คำถามที่น่าสนใจ คือ ทำไมบรรดายักษ์ใหญ่ผู้พัฒนาเทคโนโลยีของโลกถึงสนใจพลังงานทางเลือกกันนัก
1120
          แอช ชาร์มา นักวิเคราะห์จากสถาบัน ไอเอชเอส เทคโนโลยี กล่าวว่า บริษัทเหล่านี้มีต้นทุนทางด้านพลังงานสูงมาก เนื่องจากมีองคาพยพจำนวนมากที่ต้องใช้ไฟฟ้าหล่อเลี้ยงตลอดเวลา พูดง่ายๆ คือ ค่าไฟแพงว่างั้นเถอะ ดังนั้นการจำกัดต้นทุนทางด้านพลังงานและรักษาต้นทุนด้านนี้ไว้ให้คงที่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญต่อกำไรของบริษัท

          ชาร์มา ระบุว่า พลังงานไฟฟ้าที่นำไปหล่อเลี้ยงธุรกิจของบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่หมดไปกับบรรดาเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์และยังต้องหล่อเย็นไว้ตลอดเวลาทุกวัน การลงทุนด้านนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ
          ขณะที่กูเกิ้ลนั้นน่าจะประโยชน์อื่นแฝงอยู่อีก นั่นคือ การสำรวจและศึกษาข้อมูลต่อพลังงานจากแสงอาทิตย์ว่าที่สุดแล้วมีประสิทธิภาพเพียงใดหากจะนำมาใช้แทนพลังงานเก่า นำไปสู่แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเครือข่ายพลังงานแสงอาทิตย์ในอนาคต
google_campus_mountain_view_ca
          ข้อมูลบ่งชี้ว่าราคาค่าไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์นั้นมีแนวโน้มลดต่ำลงอย่างรวดเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ยกตัวอย่างเช่นการแข่งขันประมูลกันเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างเอกชนของจีนกับญี่ปุ่นในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่รัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่งผลให้เกิดการแข่งขันกันด้านราคาจนต้นทุนค่าไฟเหลือเพียง 2.5 เซนต์ ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือไม่เกิน 88 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่คิดอัตราก้าวหน้า) ถือว่าถูกกว่าค่าไฟในสหรัฐปัจจุบัน
china-solar-power
          ชาร์มากล่าวว่า สาเหตุที่ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการผลิตแผ่นเก็บพลังงานสุริยะ หรือโซลาร์เซลล์ โดยเฉพาะหลังจากจีนที่เข้ามามีบทบาทในภาคการผลิตอย่างมหาศาล
          ปัจจุบัน จีนเป็นผู้ผลิตแผ่น โซล่าเซลล์ ร้อยละ 80 ของทั้งโลก ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมในการก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ลดต่ำลง ทำให้เริ่มเห็นโรงไฟฟ้าประเภทนี้เพิ่มจำนวนขึ้น และมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย เทียบให้เห็นภาพ เช่น เมื่อหลายปีก่อนโครงการโรงไฟฟ้าประเภทนี้เพียง 50 เมกะวัตต์ก้ถือว่าใช้งบประมาณมหาศาลแล้ว

          ทว่า ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้เองทำให้โครงการปัจจุบันนั้นมีขนาดกำลังผลิตหลายร้อยเมกะวัตต์ รวมไปถึงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังผลิต 750 เมกะวัตต์ ที่รัฐมัธยประเทศ ประเทศอินเดีย ชื่อ เรวา อัลตร้า เมกา โซลาร์ มีกำหนดเสร็จสิ้นในปี 2560

 AFP PHOTO
AFP PHOTO

          ยังไม่หมดเท่านี้ ภาคการวิจัยต่อเทคโนโลยีประเภทนี้ก็กำลังรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว เช่น การใช้วัสดุใหม่ในในโซลารเซลล์ที่มีคุณสมบัติเดียวกันกับเพอร์โรฟสไกป์ หรือ แคลเซียมไทเทเนียมออกไซด์ (calcium titanium oxide) ทางเลือกที่ไม่แพงสำหรับการเลือกใช้แทนที่ซิลิกอน หากสำเร็จก็จะยิ่งทำให้โซล่าเซลล์มีราคาถูกลงไปอีก
          ไอเอชเอส ระบุว่า พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากแสงอาทิตย์จะคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 1 ทั่วโลก แต่ภายในปี 2560 นี้ คาดว่า ต้นทุนการผลิตจะมีราคาต่ำลงไปอีกร้อยละ 30 เหตุผลที่บรรดายักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีเหล่านี้สนใจเทคโฯนโลยีชนิดนี้นั้นง่ายมาก คำตอบก็คือ เพราะพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานทางเลือกแห่งอนาคตนั่นเอง


ที่มา https://www.khaosod.co.th/sci-tech/news_55704 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น